Saturday, May 21, 2005

 

รักเอย...

หลายๆคนเคยถามผมว่าความรักคืออะไร ผมเองก็เคยถามตัวเองอย่างนั้น ผมพยายามคิดถึงการกระทำต่างๆ อารมณ์ต่างๆ ความรู้สึกต่างๆที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นผลมาจากความรักเพื่อที่จะหาความหมายและคำจำกัดความให้กับคำว่ารัก แต่ที่สุดแล้วผมก็ไม่สามารถหาคำหรือวลีใดมาตอบคำถามนั้นได้เลย เพราะว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างทีเดียวที่สามารถใช้แสดงแทนการพูดคำว่ารัก
รัก...คำอัศจรรย์ มากความหมาย หลากหลายรูปแบบ แต่ไร้ซึ่งคำจำกัดความ
สิ่งที่สำคัญก็คือเราจะต้องแยกให้ออกว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้นแท้จริงแล้วมันคือ “ความรัก” หรือเป็นเพียงแค่ “ความลุ่มหลง” กันแน่ ความรักสามารถผลักดันให้ผู้ที่ถือมันอยู่นั้นเป็นได้ทั้งผู้สร้างและผู้ทำลาย ซึ่งจะออกมาในรูปแบบไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับพื้นฐานจิตใจของผู้ที่ถือมันไว้ ในขณะที่ความหลงนั้นจะผลักดันให้ผู้ที่ถือมันโดยเข้าใจว่ามันคือความรักกลายเป็นผู้ทำลาย เขาหรือเธอจะทำลายคนที่เขาหรือเธอคิดว่าตนเองรัก ทำลายคนรอบข้าง และในที่สุดผลทั้งหมดก็จะย้อนกลับมาทำลายตัวของเขาเอง
Love is not blind, lust is…
บางคนถามผมว่าเมื่อไหร่กันที่เราจะได้เจอกับรักแท้? แล้วรักแท้นั้นคืออะไร? เราจะพบกับมันได้ยังไง? ในเวลานี้นั้นผมเองก็ยังหาคำตอบให้กับคำถามเหล่านั้นไม่ได้ หากแต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อก็คือ
ความรักที่แท้จริงจะเริ่มต้นหลังจากที่ไฟแห่งความตื่นเต้นทั้งหลายได้มอดดับไปหมดแล้ว..
ความรักนั้นสามารถหมดลงได้ในวันหนึ่ง แต่ความเข้าใจนั้นไม่ใช่ เมื่อเกิดขึ้นแล้ว มันจะคงอยู่ไปจนตราบชั่วชีวิตสั้นๆของเราที่เหลืออยู่เลยทีเดียว
สำหรับผมแล้ว รักแท้ของคู่รักก็คือความเข้าใจ นั่นเอง...
แต่ถึงไม่มีคู่รัก รักแท้ก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ เพื่อนผมคนหนึ่งเชื่อว่าในชีวิตหนึ่งนั้นน่าจะมีใครสักคนที่เราสามารถรักได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นในเวลานี้หรือในอนาคต รักแบบที่ว่าเห็นคนๆนี้เมื่อไหร่ก็ยังรัก และต่างก็มีความรักให้กันและกันโดยที่ไม่ต้องเป็นคู่รักกัน แม้ว่าต่างคนต่างก็มีครอบครัว แต่รักแท้ก็จะยังคงอยู่ระหว่างคนสองคนนั้น
นั่นเป็นรักแท้ที่แสนบริสุทธิ์...
มันอยู่เหนือเส้นพรมแดนของคำว่าเพศ เป็นรักแท้ที่มนุษย์สองคนได้มอบให้แก่กัน...
ถึงแม้ว่าชีวิตของผมจะพังทุกครั้งที่มีปัญหาเรื่องความรัก แต่ผมก็ยังกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่า “ความรักคือปัญหาที่เล็กที่สุดในชีวิต” นั่นเพราะผมรู้ดีว่าสิ่งที่ทำให้ผมพังไม่ใช่ความรักที่ไม่สมหวัง แต่มันพังเพราะผมซึ่งไม่สมหวังในความรักต่างหากที่ทำให้ชีวิตของตัวเองพัง แม้จะกินไม่ได้ ไม่ให้สารอาหาร ไม่ทำให้ท้องอิ่ม แต่ความรักก็ยังเป็นที่ปรารถนาและเชื่อว่าทำให้ชีวิตของหลายๆคนดำเนินต่อไปได้ เป็นแรงผลักดันอันน่าอัศจรรย์ให้แก่ชีวิตของหลายๆคน แม้รักไม่ได้เป็นผู้สร้าง แต่มันก็ไม่ได้เป็นผู้ทำลายเช่นกัน ลำพังตัวของความรักเองนั้นไม่สามารถจะไปทำร้ายใครได้เลย ผู้ที่ถือความรักไว้ต่างหากที่นำมันมาทำร้ายตัวเองแล้วก็โยนความผิดให้กับมัน ทั้งๆที่มันก็อยู่ของมันเฉยๆ และถูกเหวี่ยงไปมาตามอารมณ์ของผู้ที่ถือมัน
ความรักก็เหมือนมีด เอามาปักที่อกก็ต้องเจ็บเป็นธรรมดา อยู่ที่ว่าจะเร็วหรือช้าเท่านั้นเอง
ระยะห่างที่พอดีและเหมาะสมจะทำให้ชีวิตมีความสุข ไม่เพียงแต่ระหว่างคนสองคน ไม่เพียงระหว่างคุณกับคนรัก มันเป็นความจริงที่ใช้ได้แม้กระทั่งระหว่างคุณกับความรัก ไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะต้องนำความรักมาผูกติดไว้กับตัวเรา และเช่นเดียวกัน ไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะต้องเอาความรักของเราไปผูกไว้กับใคร เพียงแต่คุณตั้งมันไว้ในที่ที่อยู่ในสายตาคุณ ตั้งไว้ในที่ที่คุณสามารถจะดูแลเอาใจใส่มัน ตั้งไว้ในที่ที่คุณสามารถจะประคับประคองมันไว้ได้อย่างทันท่วงทีก่อนที่มันจะตกหล่นและแตกสลายไป ผมคิดว่าทุกๆคนย่อมต้องอยากจะเสาะแสวงหาที่ที่สามารถวางความรักไว้ได้อย่างมั่นคง แต่ในความเป็นจริงนั้น ไม่ว่าคุณจะเสาะแสวงหาที่วางอย่างไร ที่ที่คุณพบก็จะมีแต่เพียงหน้าผาสูงชัน และความรักนั้นมักจะตั้งอยู่อย่างหมิ่นเหม่ที่สุดปลายเรียวเล็กของชะง่อนผานั้นเสมอ มันจะตั้งอยู่โดยมีสายลมแห่งอารมณ์ที่เกิดจากการกระทำของคนสองคนที่สร้างมันขึ้นมาพัดอยู่ตลอดเวลาโดยมีมันอยู่ตรงกลาง สายลมที่พัดมาอย่างพอดีจะทำให้มันตั้งอยู่อย่างมั่นคง ถ้าลมทั้งสองสายนั้นพัดมาอย่างไม่สมดุล มันก็จะเอนเอียงไปทางใดทางหนึ่งและมีอันต้องตกลงสู่หุบเหวลึกที่เบื้องล่าง แต่ความรักไม่ใช่วัตถุทั่วไป มันจะไม่ร่วงหล่นสู่พื้นในทันที มันใช้เวลานานมากกว่าที่จะตกถึงพื้น คุณมีเวลามากมาย บางทีอาจจะทั้งชีวิตด้วยซ้ำที่จะคว้าจับมันอย่างระมัดระวังและนำกลับไปวางไว้บนชะง่อนผานั้นตามเดิม นั่นทำให้หลายคนชะล่าใจและรู้สึกว่าจะไปคว้ามันทีหลังก็ยังไม่สาย แต่พึงระวังให้ดี ผมได้บอกไปแล้วว่ามันตั้งอยู่ได้เพราะสมดุลของสายลมแห่งอารมณ์สองสาย เพราะฉะนั้น เมื่อลมสายหนึ่งไม่พัด ลมอีกสายก็สามารถที่จะส่งมันลงสู่หุบเหวเบื้องล่างได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย และเมื่อใดก็ตามที่มันตกถึงพื้น ความเปราะบางของมันจะทำให้มันแหลกสลายราวกับวัตถุที่ถูกทำลายจนถึงระดับอะตอม ความรักของคุณจะสูญสลายไปตลอดกาลและคุณจะไม่มีวันได้พบกับมันอีกเลย
เมื่อเวลานั้นมาถึงจริงๆแล้ว...
แม้เพียงเสียงแตกสลายของมันคุณก็ไม่มีวันได้ยิน...

Comments: Post a Comment



<< Home

This page is powered by Blogger. Isn't yours?