Thursday, September 08, 2005

 

อนุทินแห่งความโดดเดี่ยว

“อย่างน้อย...ความโดดเดี่ยวก็ไม่เคยทิ้งให้เราต้องเดียวดาย”
...สวัสดีบันทึก...
...วาเลนไทน์ปีนี้ฉันก็ยังโดดเดี่ยวเหมือนเคย...
...แต่คราวนี้ฉันได้ฉลองให้กับความโดดเดี่ยวด้วยนะ...
...ฉันรวมตัวกับกลุ่มคนโดดเดี่ยว...กลุ่มคนที่สนุกสนานกับความโดดเดี่ยว...
...สนุกสนานกับความโดดเดี่ยวเพราะจำต้องสนุกสนานกับมัน...
...แต่ว่า...รู้ไหมบันทึก?...
...ความโดดเดี่ยวอันยาวนานได้สอนอะไรบางอย่างให้ประจักษ์ในใจของฉัน...
...อย่างที่น้อยที่สุดในตอนที่เราไม่มีใคร...เราก็ยังมีความโดดเดี่ยวใช่ไหมที่อยู่เคียงข้างกัน?...
...เห็นไหมบันทึก?...
...มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียวในโลกใบนี้...
...เพียงรู้จักมอง...รู้จักเลือกมุมที่จะมอง...
...ความโดดเดี่ยวนั้นไม่ต่างอะไรจากคนที่เราเกลียดเลยบันทึก...
...หากเรายินยอมที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจมัน...
...แม้จะยังเกลียดกัน...แต่เรากับมันก็จะเข้าใจซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี…
...มันเป็นเพื่อนแสนดี...
...มันไม่เคยคิดจะทิ้งเรา...
...กลับกัน...มีเพียงแต่เราที่คอยเฝ้าจะทอดทิ้งมัน...
...มันคือเพื่อนแท้นะบันทึก...ความโดดเดี่ยวคือเพื่อนแท้...
...มันคือเพื่อนคนแรก...คนเดียว...และคนสุดท้าย...

...เพื่อนที่ปรากฏกายขึ้นเคียงข้างในยามที่เราไม่มีใคร...
...ยินยอมจากไปโดยไม่โอดอุทธรณ์ใดๆเมื่อมีคนมาแทนที่...
...และยอมอยู่เคียงข้างอย่างไม่เคยเรียกร้องอะไร...
...มันคือเพื่อนที่รักเราอย่างซื่อสัตย์...และหมดหัวใจ...ไม่ว่าเราจะรังเกียจมันแค่ไหนก็ตาม...
...ทุกวันนี้ฉันไม่ได้รักมัน...
...แต่ฉันก็ไม่ได้รังเกียจขนาดที่จะปฏิเสธและทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ต้องอยู่ร่วมกับมัน...
...การอยู่ร่วมกับความโดดเดี่ยวมันทรมานนะบันทึก...
...อะไรนะ?...ไม่หรอก...ฉันไม่ใช่มาโซคิสม์…
...ฉันควรจะเรียนรู้ความทรมานของมันให้ซาบซึ้งจนถึงขีดสุด...
...เพื่อจะได้เห็นคุณค่าของสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกันกับมันได้อย่างถึงขีดสุดเช่นกันไม่ใช่หรือ?...
...หากซาบซึ้งกับมัน...ฉันจะได้รู้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับมันนั้นมีคุณค่าแค่ไหน...
...ซาบซึ้งในคุณค่าเพื่อจะได้รู้จักรักษาสิ่งที่อยู่ตรงข้ามนั้นยังไงล่ะ...
…ซาบซึ้งในคุณค่าเพื่อได้รู้ว่าเมื่อได้มันมาแล้วฉันควรจะรักษามันไว้อย่างไร...
...การได้มามันไม่เคยยากเกินไปกว่าการรักษาไว้หรอกนะ...
...มองโลกในแง่ดีหรือ?...หลอกตัวเองหรือ?...หลีกหนีความจริงหรือ?...
...ใครจะว่าอย่างไรก็ได้บันทึก...
...แต่นั่นคือความเป็นฉันที่จริงที่สุด...
...และแม้ในยามที่ไร้สุขที่สุด...ความจริงนั้นก็ไม่เคยทำให้ฉันต้องถึงกับทุกข์...
...เพียงไม่สุขนั้นไม่ได้หมายความว่าจะต้องทุกข์หรอกนะบันทึก...
...เมื่อมีสองขั้วแห่งเขตค่าจำกัดความ...มันต้องมีจุดกึ่งกลาง...
บางที...จุดกึ่งกลางที่ไม่ขึ้นกับอายละอองใดๆแห่งขั้วทั้งสองนั้นอาจทำให้เราพอใจมากที่สุดก็ได้นะบันทึก
...แต่ว่า...ความรู้สึกเป็นของละเอียดอ่อนนะบันทึก…
...ถ้าเรามัวแต่จมอยู่กับจุดไร้ขั้วนั่นนานเกินไป...เราอาจจะต้องสูญเสียความละเอียดอ่อนนั้นไปก็ได้…
...ดีหรือไม่ฉันไม่รู้...แต่ฉันไม่ต้องการจะเสียมันไป...
...ดังนั้น...ไม่ว่ามันจะให้ความพอใจสูงสุดหรือไม่...ฉันก็ไม่เคยคิดที่จะอยู่กับมันอย่างตลอดไป…
...เว้นเสียแต่ว่ามันสุดวิสัยจริงๆ...

...ไม่มีอะไรที่มากเกินไปแล้วดีหรอกบันทึก...
...แม้แต่ความพอดีก็ตาม…
...ความพอดีที่มากเกินไปจะทำลายรสชาติของการที่อุตส่าห์ได้มีชีวิตไปจนสิ้น...
...แต่หากไม่พอดีมากเกินไป...ชีวิตเราก็จะถูกทำลายเสียสิ้นเช่นกัน...
...ยากจังเลยนะบันทึก...

...เธอว่าอย่างนั้นมั้ย?...


This page is powered by Blogger. Isn't yours?