Monday, November 13, 2006

 

ประชาธิปไตยในฐานะน้ำหนักของชีวิต (Unbearable Lightness of Being No Democracy)

มันเริ่มจากบทสนทนาง่ายๆ ก่อนที่วงเบียร์ของน้องๆ ที่เปรียบเสมือนเพื่อนของผมจะอุบัติขึ้น

เราคุยกันว่า คิดว่าประเทศไทยในทุกวันนี้ พร้อมแล้วหรือยังกับการที่จะมีประชาธิปไตย

มันคงฟังดูแปลกๆ กับการตั้งคำถามถึงการมีอยู่ ของสิ่งซึ่งหลายๆคนเชื่อว่าได้อุบัติเงาร่างขึ้นตั้งแต่ 24 มิถุนายน 2475 แต่มันก็สะท้อนให้เห็นความจริงอย่างหนึ่งว่า ในสายตาของคนอีกกลุ่มหนึ่ง ประเทศนี้ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจ หรืออาจจะยังไม่เคยได้มีประชาธิปไตยกันอย่างจริงๆจังๆเสียที

ในคำถามนั้น คนถามได้ถามภายใต้กรอบที่ว่า ให้ตอบตามประชาธิปไตยในปัจเจกนิยามใจ ของใครคนใดที่สนใจจะตอบ

แน่นอน ภายใต้กรอบดังกล่าว เราจึงได้คำตอบที่หลากหลาย เพราะความคิดที่มีต่อประชาธิปไตยในใจของแต่ละคน ก็เหมือนความคิดที่มีต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดในใจแต่ละคน คือย่อมไม่จำเป็นจะต้องเหมือนกันทั้งหมด หรืออาจจะเหมือนกันที่จุดหมาย แต่แตกต่างกันไปในเชิงโครงสร้าง เช่นทุกคนต้องการความมั่นคง แต่ความมั่นคงในความรู้สึกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้น รูปแบบที่ใช้ในการสร้างความมั่นคงจึงต่างกัน แต่ก็เป็นไปเพื่อสร้างความมั่นคงของตนเหมือนกัน

ในความคิดของผม หากเรามองประชาธิปไตยตามแง่แห่งความคำ อันมีรากมาจากคำว่าประชา อันหมายถึง ประชาชน สนธิรวมเข้ากับอธิปไตย ซึ่งหมายความว่าความเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยจึงหมายถึงความเป็นใหญ่ของปวงชน เมื่อเทียบกับสภาพสังคม สภาพจิตใจของคนในปัจจุบันแล้ว ผมเห็นว่าการระบุความนิยามแค่นั้นคงแคบ และดูเป็นเชิงปรัชญาเกินกว่าจะสามารถสร้างความเข้าใจได้ในวงกว้าง

เพราะภายใต้ความคำดังกล่าว มักจะมีการขยายต่อให้ฟังอีกนิดว่า ก็คือระบอบการปกครองที่ให้สิทธิ์ประชาชนในการส่งเสียง เรียกร้องซึ่งความต้องการ หรือการแสดงความคิดเห็นของตัวเองได้อย่างเสรี เพราะเป็นระบอบการปกครองที่ถือมติปวงชนเป็นใหญ่

แนวขยายความดังกล่าวนั้น ได้นำมาซึ่งการใช้ประชาธิปไตยอย่างพร่ำเพื่อ สุรุ่ยสุร่าย และกลายเป็นการบิดผัน ซึ่งความหมายเชิงปฏิบัติของประชาธิปไตย ดังเช่นที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ และทำให้หลายๆคน หรือพรรคการเมืองบางพรรค ก่อนิยามง่ายๆ เพื่อใช้เป็น Democratic Gimmick ว่าประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง เพราะเป็นกิจกรรมที่ทำให้คนได้ออกความคิดในรูปเสียงกากบาท เป็นการเปิดโอกาส ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมทางการเมือง

ทั้งที่จริงๆแล้วการเลือกตั้งนั้น เป็นแค่เพียงองค์ประกอบหนึ่งของประชาธิปไตย หาได้ใช่ตัวตัดสินความเป็นประชาธิปไตยไม่

เหมือนบอกว่า การที่คุณมีขา ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดคน เพราะสิ่งมีชีวิตชนิดหมาก็มีขาเหมือนกัน

การเลือกตั้งเป็นประชาธิปไตย...แต่ประชาธิปไตยไม่ใช่การเลือกตั้ง

ในทรรศนะของผม ประชาธิปไตยเป็นเรื่องราวของการเคารพในสิทธิ์ คือในขณะที่ทุกคนเคารพและเรียกร้องซึ่งสิทธิ์อันพึงมีพึงได้ของตัวเองนั้น พวกเขาก็ต้องไม่ลืมเคารพซึ่งสิทธิ์อันพึงมีพึงได้ของผู้อื่นด้วย เป็นการใส่ใจในเสียงทุกเสียง

การไม่เคารพในเสียงฉันใด...ย่อมหมายถึงการไม่เคารพในความคิดฉันนั้น

เราอาจจะต้องตามเสียงส่วนใหญ่ว่าด้วยกฎของการเลือกตั้ง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเสียงส่วนน้อยจึงสมควรจะถูกเพิกเฉยไป เราควรจะต้องทำความเข้าใจในเสียงส่วนน้อย ซึ่งถือเป็นเสียงต่างนั้น ว่ามีที่มาทางความคิดอย่างไร หรือเพื่อได้หยิบเอาข้อดีจากเสียงส่วนน้อยมาใช้ เหมือนเป็นการนำเอาเสียงกระแสรองมาใช้ควบคู่ไปกับเสียงกระแสหลัก ซึ่งนั่นถือเป็นการเคารพสิทธิมนุษยชนอย่างหนึ่ง

ดังนั้น ผมจึงคิดว่าแม้กระทั่งการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย ก็ยังถูกใช้ไปอย่างผิดๆ เพราะมันกลายเป็นการให้สิทธิ์ขาดแก่ฝ่ายที่ถูกเรียกว่าผู้ชนะ และปฏิบัติต่อเสียงอีกฝ่าย (ซึ่งไม่ได้หมายถึงแต่เพียงพรรคที่ไม่ได้รับเลือก แต่หมายรวมถึงเสียงของประชาชนที่เลือกพรรคนั้นๆด้วย) โดยเพียงให้สิทธิ์ในการครอบครองคำว่าผู้แพ้ และฐานะของเสียงส่วนน้อยเท่านั้น

ซึ่งทำให้ผมเห็นด้วยกับความคิดของผู้ถามที่ว่า การเลือกตั้งนี่เอง ที่เป็นตัวเบียดบัง จำกัด ขัดขวาง ลิดรอนสิทธิของเสียงส่วนน้อยไปอย่างแนบเนียนที่สุด ซึ่งแบบนั้นย่อมไม่เป็นประชาธิปไตย เป็นเพียงการเอาชนะกันด้วยกำลังที่มากกว่า ผิดแผกตรงที่ไม่ใช่กำลังทางกาย ไม่ใช่กำลังทางอาวุธ ไม่ใช่กำลังทางเหตุผลหรือหลักฐานพิสูจน์ แต่เป็นกำลังทางจำนวนเสียงตามสิทธิ์

ของแบบนั้นผมเรียกว่าประชาธิปไตยฉบับบูดเบี้ยว...
เป็นประชาธิปไตยแบบ...พวกมากลากไป

และในสังคมไทยปัจจุบันที่ทวีความเป็นปัจเจกมากขึ้นเรื่อยๆนั้น ย่อมยังไม่น่าจะพร้อมกับการมีประชาธิปไตย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมีประชาธิปไตยโดยที่ยังไม่มีเกณฑ์พิจารณาร่วมใดใด ว่าประชาธิปไตยที่แท้จริง หรือประชาธิปไตยที่ดีนั้นต้องมีคุณลักษณะอย่างไร เพราะรังแต่จะทำให้เกิดการเรียกร้องแต่เฉพาะเพื่อตัวเอง โดยต่างก็อ้างว่าตนมีสิทธิ์ หรือเป็นการพยายามเอาชนะกันด้วยกำลังเสียงที่มากกว่า อย่างที่เป็นๆกันอยู่

เป็นความเอาแต่ใจแบบปัจเจกเผด็จการ...

การสนทนาเมื่อวานได้ดำเนินไปถึงจุดที่ “ทำให้ผมรู้สึก” ว่าในทุกวันนี้ ประชาธิปไตยตกอยู่ในฐานะของสิ่งที่ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่จะอย่างไรก็จำเป็นจะต้องมี

หลายคนไม่รู้ว่าทำไมจะต้องมีประชาธิปไตย มีแล้วดีอย่างไร แต่คิดว่ามีประชาธิปไตยแล้วดี และที่คิดว่ามีประชาธิปไตยแล้วดี ส่วนหนึ่งคงเกิดจากการเปรียบเทียบ จากการที่ได้รับฟังมาตลอดว่า เผด็จการ คอมมิวนิสต์ ฟาสซิสม์ การปกครองแบบอื่นๆนั้นไม่ดี และอีกส่วนหนึ่ง คงเป็นเพราะประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่ได้รับการเรียกร้องให้เกิดมีมาตลอดเวลา เป็นกระแส เหมือนเด็กแนวต้องเดินตามระเบียบเดียวกันที่เรียกว่าการเป็นอิสระจากระเบียบ

ตกอยู่ในฐานะของน้ำหนักชีวิตอย่างหนึ่ง...

โดยส่วนตัว ผมเชื่อว่ามนุษย์เกิดมากับวิญญาณที่ว่างเปล่า มีชีวิตที่โหวงเหวงเคว้งคว้างจนต้องหาน้ำหนักต่างๆมายึดถ่วง ความรัก ภาระหน้าที่ อุดมการณ์ ความเชื่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ใดใดก็ตามอันจะสามารถทำให้คนๆหนึ่งรู้สึกถึงน้ำหนักของชีวิตตนเองได้

เรา “บางคน” หาความรักมาถ่วง เพื่อเติมเต็มความโหวงเหวงเหว่ว้าตามสัญชาตญาณ สร้างภาระหน้าที่เพื่อกลบฝังความไร้สาระในฐานะของการดำรงชีวิต มีอุดมการณ์เพื่อสร้างอัตลักษณ์แก่ตน มีความเชื่อเพื่อถมเติมความไร้ที่พึ่งของใจ เชื่อในชาติเพื่อถมที่ว่างความสามัคคี นับถือศาสนาเพื่อถมเติมความว่างเปล่าทางศีลธรรมในใจ เพื่อตนได้รู้สึกว่าตนเป็นคนดี ยกย่องกษัตริย์เพื่อถมเติมความรู้สึกในการรู้สำนึกคุณคน

เชื่อในประชาธิปไตย...เพื่อถมเติมความเคว้งคว้างทางสิทธิ์เสียงของตน
เชื่อในประชาธิปไตย...เพื่อบอกได้ว่าตนคือชนที่มีความเป็นอารยะ

และในความยึดถ่วงในสิ่งใดใดดังกล่าวเพื่อการใดใดดังกล่าว เราก็ปฏิเสธไม่ได้ ว่ามีคนบางส่วนที่ยึดถ่วงภายใต้ความรวมสั้นๆว่า ยึดไว้แล้วดี ถ่วงไว้แล้วดี หรือไม่ ก็เป็นการยึดถ่วงไว้เพื่อทำตัวเองให้แตกต่าง ใช้การยึดถ่วงนั้นเพื่อยกตัวเองสูงขึ้น เพื่อพูดว่าคนที่ไม่มีการยึดถ่วงเป็นพวกไร้สารพัด ไร้รัก ไร้จุดยืน ไร้ความสามัคคี ฯลฯ

ทั้งที่จริงๆแล้ว คนที่ไร้สารพัดนั้นก็อาจจะกำลังใช้ความไร้สารพัดดังกล่าวเป็นสิ่งยึดถ่วงเหมือนกัน และก็อาจเป็นไปเพื่อแยกตนออกมาจากพวกที่กล่าวหาว่าเขาเป็นพวกไร้สารพัดเช่นกัน

สำคัญที่สุดคือ เพียงยึดถ่วงอย่างมีสติ เพียงยึดถ่วงอย่างพึงรู้ว่า แท้จริงแล้วตนถือเหตุผลใดในการยึดถ่วงนั้น

ไม่ใช่เพียงยึดถ่วง...เพื่อกดถ่วงคนอื่นให้ต่ำลงกว่าตนเอง


Comments:
"ในสังคมไทยปัจจุบันที่ทวีความเป็นปัจเจกมากขึ้นเรื่อยๆนั้น ย่อมยังไม่น่าจะพร้อมกับการมีประชาธิปไตย"
เรากลับคิดว่า ยิ่งคนเป็นปัจเจกชนมากขึ้น ระบอบประชาธิปไตย กลับยิ่งทำงานได้ดีขึ้น เพราะมนุษย์ปัจเจกนี่แล ที่จะพิทักษ์สิทธิ์ เสรีภาพ และทรัพย์สินของตัวเอง ยิ่งกว่าใคร

นึกภาพสังคม collectivism หรือ communitarian (ไม่รู้ใช่ขั้วตรงข้ามของ individualism หรือเปล่า) ที่ตัวตนของเราไม่สำคัญสิ บางทีอาจถูกชุมชนลิดรอนสิทธิ เสรีภาพแบบไม่รู้ตัว

มันแปลกตรงไหน ถ้าคนคนหนึ่งจะเรียกร้องเพื่อตัวเอง เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ตราบใดที่ไม่เป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้อื่นจนเกินไป ถ้ามากเกินไปสุดท้ายก็จะเกิดการต่อรองประนีประนอม ให้เกิดสมดุลขึ้นมาเอง (ส่วนใครจะได้ไปนั้น ขึ้นอยู่กับอำนาจต่อรองใครมากกว่ากัน)

เราเกิดในประเทศที่ปกครองระบอบประชาธิปไตย แล้วถ้าเราเกิดไม่พอใจ เราจะโหวตขอไม่ใช้ระบอบประชาธิปไตยได้มั้ย เราแอบไปตั้งคอมมูนเล็ก ๆ หรอ

หรือเราจะหนุนหลังทหารให้ปฏิวัติประเทศให้เป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์ดี
 
"มันแปลกตรงไหน ถ้าคนคนหนึ่งจะเรียกร้องเพื่อตัวเอง เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ตราบใดที่ไม่เป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้อื่นจนเกินไป ถ้ามากเกินไปสุดท้ายก็จะเกิดการต่อรองประนีประนอม ให้เกิดสมดุลขึ้นมาเอง (ส่วนใครจะได้ไปนั้น ขึ้นอยู่กับอำนาจต่อรองใครมากกว่ากัน)"

ก็คือตรงนี้นี่เอง ที่ทำให้ผมบอกว่า "ในสังคมไทยปัจจุบันที่ทวีความเป็นปัจเจกมากขึ้นเรื่อยๆนั้น ย่อมยังไม่น่าจะพร้อมกับการมีประชาธิปไตย"

สภาพปัจเจกที่สูงขึ้นที่ผมว่าก็คือสภาพในลักษณะแบบ "กูก็มีสิทธิ์เหมือนกัน" ซึ่งเมื่อดำเนินต่อไปแล้วก็จะตกสภาพแบบเดียวกับที่คุณว่า คือดุลยภาพที่เกิดขึ้นในมือของฝ่ายที่มีอำนาจต่อรองสูงกว่า

เมื่อนั้นย่อมสูญเสียลักษณะของประชาธิปไตยข้อที่ว่า "ความเสมอภาค" ไป

และในขณะต่อรองนั้น ด้วยความเป็นปัจเจกที่สูงย่อมเป็นไปได้ที่ต่างฝ่ายต่างย่อมต้องหาทางให้ตนได้ครอบครองซึ่งอำนาจเหนือดังกล่าวนั้น ซึ่งนั่นทำให้สูญเสียลักษณะของประชาธิปไตยข้อที่ว่า "ความมีภราดรภาพ" ไป

ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้คุณสมบัติเพียงข้อเดียวจากสามข้อ คือข้อที่ว่า "ความมีเสรีภาพ" กันอย่างสุดขั้ว

อนึ่ง คุณสมบัติของประชาธิปไตยสามประการดังกล่าวนั้นอ้างอิงมาจากหนังสือ "เขียนให้คิด คุยให้เคือง" ของ "ส.ศิวรักษ์" ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคุณลักษณะจริงๆ หรือเป็นคุณลักษณะในใจของอาจารย์สุลักษณ์ แต่นั่นตรงกับสิ่งที่ผมคิดว่าประชาธิปไตยพึงจะต้องมี
 
World Of Warcraft gold for cheap
wow power leveling,
wow gold,
wow gold,
wow power leveling,
wow power leveling,
world of warcraft power leveling,
wow power leveling,
cheap wow gold,
cheap wow gold,
maternity clothes,
wedding dresses,
jewelry store,
wow gold,
world of warcraft power leveling
World Of Warcraft gold,
ffxi gil,
wow account,
world of warcraft power leveling,
buy wow gold,
wow gold,
Cheap WoW Gold,
wow gold,
Cheap WoW Gold,
wow power leveling
world of warcraft gold,
wow gold,
evening gowns,
wedding gowns,
prom gowns,
bridal gowns,
oil purifier,
wedding dresses,
World Of Warcraft gold
wow gold,
wow gold,
wow gold,
wow gold,
wow power level,
wow power level,
wow power level,
wow power level,
wow gold,
wow gold,
wow gold,
wow po,
wow or,
wow po,
world of warcraft gold,
cheap world of warcraft gold,
warcraft gold,
world of warcraft gold,
cheap world of warcraft gold,
warcraft gold,buy cheap World Of Warcraft gold
Maple Story mesos,
MapleStory mesos,
ms mesos,
mesos,
SilkRoad Gold,
SRO Gold,
SilkRoad Online Gold,
eq2 plat,
eq2 gold,
eq2 Platinum,
EverQuest 2 Platinum,
EverQuest 2 gold,
EverQuest 2 plat,
lotro gold,
lotr gold,
Lord of the Rings online Gold,
wow powerleveling,
wow powerleveling,
wow powerleveling,
wow powerleveling,world of warcraft power leveling
ffxi gil,ffxi gil,ffxi gil,ffxi gil,final fantasy xi gil,final fantasy xi gil,final fantasy xi gil,final fantasy xi gil,world of warcraft gold,cheap world of warcraft gold,warcraft gold,world of warcraft gold,cheap world of warcraft gold,warcraft gold,guildwars gold,guildwars gold,guild wars gold,guild wars gold,lotro gold,lotro gold,lotr gold,lotr gold,maplestory mesos,maplestory mesos,maplestory mesos,maplestory mesos, maple story mesos,maple story mesos,maple story mesos,maple story mesos,
n3e6a7nm
 
World Of Warcraft gold for cheap
wow power leveling,
wow gold,
wow gold,
wow power leveling,
wow power leveling,
world of warcraft power leveling,
wow power leveling,
cheap wow gold,
cheap wow gold,
maternity clothes,
wedding dresses,
jewelry store,
wow gold,
world of warcraft power leveling
World Of Warcraft gold,
ffxi gil,
wow account,
world of warcraft power leveling,
buy wow gold,
wow gold,
Cheap WoW Gold,
wow gold,
Cheap WoW Gold,
wow power leveling
world of warcraft gold,
wow gold,
evening gowns,
wedding gowns,
prom gowns,
bridal gowns,
oil purifier,
wedding dresses,
World Of Warcraft gold
wow gold,
wow gold,
wow gold,
wow gold,
wow power level,
wow power level,
wow power level,
wow power level,
wow gold,
wow gold,
wow gold,
wow po,
wow or,
wow po,
world of warcraft gold,
cheap world of warcraft gold,
warcraft gold,
world of warcraft gold,
cheap world of warcraft gold,
warcraft gold,buy cheap World Of Warcraft gold
Maple Story mesos,
MapleStory mesos,
ms mesos,
mesos,
SilkRoad Gold,
SRO Gold,
SilkRoad Online Gold,
eq2 plat,
eq2 gold,
eq2 Platinum,
EverQuest 2 Platinum,
EverQuest 2 gold,
EverQuest 2 plat,
lotro gold,
lotr gold,
Lord of the Rings online Gold,
wow powerleveling,
wow powerleveling,
wow powerleveling,
wow powerleveling,world of warcraft power leveling
ffxi gil,ffxi gil,ffxi gil,ffxi gil,final fantasy xi gil,final fantasy xi gil,final fantasy xi gil,final fantasy xi gil,world of warcraft gold,cheap world of warcraft gold,warcraft gold,world of warcraft gold,cheap world of warcraft gold,warcraft gold,guildwars gold,guildwars gold,guild wars gold,guild wars gold,lotro gold,lotro gold,lotr gold,lotr gold,maplestory mesos,maplestory mesos,maplestory mesos,maplestory mesos, maple story mesos,maple story mesos,maple story mesos,maple story mesos,
c3s6f7bd
 

شركة تنظيف الامارات

شركة تنظيف دبي شركة نظافة بدبي
شركة تنظيف كنب دبي بالبخار تنظيف كنب دبي بالبخار
شركة غسيل سجاد بدبي غسيل سجاد دبي
شركة تنظيف في ابوظبي شركات تنظيف ابوظبي
شركة تنظيف منازل فى العين شركة تنظيف منازل العين
شركات تنظيف كنب في ابوظبي شركات تنظيف كنب ابوظبي

 
Post a Comment



<< Home

This page is powered by Blogger. Isn't yours?