Thursday, November 30, 2006
หมีมองคน: สินค้าสี่ชิ้นในรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง
อยู่ดีๆ...ไอ้ทาโร่ก็พูดถึงรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง
“ไอ้รายการตอนแปดโมงครึ่งช่องสามนะเหรอ?”
“อืม”
“ทำไมมึงดูเครียดจังวะ?”
“กูสมเพช...เอ่อ...มนุษย์คงพอใจจะได้รับคำว่าสงสารมากกว่าสินะ กูสงสารพิธีกรสี่คนนั้นว่ะ”
“ทำไมวะ?”
“ที่วันนั้น จริงๆก็นานแล้วนะ ที่คุณมีสุขแกเอาบทความของคนอื่นมาอ่านน่ะ เรื่องที่ว่าเอาผู้หญิงไปทำสินค้าอย่างเรื่องเด็กเชียร์เบียร์อะไรแบบนั้นน่ะ”
“อืมๆ กูจำได้ ทำไมวะ กูว่าดีออก ส่งเสริมผู้หญิงบางส่วน กระตุ้นให้รู้สึกตัว ให้ตระหนักถึงศักดิ์ศรีคุณค่าของตัวเอง ไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือให้คนอื่นเอาไปทำเป็นสินค้า คุณมีสุขเธอก็พูดไปแล้วนี่”
“เป็นสินค้ามันไม่ดีขนาดนั้นเลยเหรอวะ?”
“ถ้าพรุ่งนี้กูขายมึงให้คนอื่น มึงจะชอบมั้ยล่ะ?”
“กูอาจจะชอบว่ะ เพราะนั่นหมายถึงโอกาสที่กูจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น”
“ไอ้...เฮ่อ...กูจะด่าไอ้สัตว์ก็ไม่ได้ เพราะมึงเป็นสัตว์อยู่แล้ว”
“กูก็สัตว์ มึงก็สัตว์ แต่กูเป็นสัตว์ที่กำลังเป็นสัด”
“อย่ามาทำสายตาลามกกับแข้งกู มาคุยให้รู้เรื่องก่อน คือไม่ใช่ว่าเป็นสินค้าแล้วมันไม่ดีเว่ย แต่การที่เอาคนมาทำเป็นสินค้ามันไม่ดี มันไม่ใช่เรื่องที่น่าสนับสนุน ควรกำจัดด้วยซ้ำ”
“...................”
“มึงถอนใจทำไมวะ?”
“กูสม...เอ่อ...สงสารสี่คนนั้นว่ะ”
“สงสารอะไรอีกวะ?”
“พวกเธอคงไม่รู้ตัว ว่าตัวเองก็ตกอยู่ในสถานะสินค้าเหมือนกัน”
“ยังไงวะ?”
“กูว่ากาละแมร์แม่งน่าสม...น่าสงสารที่สุดเลยว่ะ แม่งถูกบรรจุไว้เป็นหนึ่งในสี่เพื่อดึงคนดู เพราะกลายเป็นสินค้าไปตั้งแต่ไอ้หนังสือที่ประณามว่ากูแม่งเลว ถึงจะเลวน้อยกว่าพวกมึงก็เถอะ พอเป็นสินค้าก็เลยขายได้ ก็เลยถูกเอามาเป็นจุดขาย สามคนที่เหลือก็พลอยฟ้าพลอยฝน กอปรกับคุณลักษณะส่วนตัว และคุณลักษณะส่วนรายการ ตอนนี้ไอ้รายการนั่นก็เลยดังไปด้วย พอรายการดัง คนก็ดัง สี่คนนั้นก็พัฒนาตัวเองไปเป็นสินค้าในรูปของดาราจอเงิน สามในสี่ถูกเอาไปขายน้ำผลไม้ เออ แต่น้ำผลไม้นั่นอร่อยดีนะ จากนั้นก็มีเอาคุณมีสุขเธอไปโฆษณาอาหารเสริมอะไรทำนองนั้น แล้วสุดท้ายที่กูเห็นนะ สี่คนนั้นมันเป็นการ์ตูนไปแล้วว่ะ”
“อืม...สินค้านี่หว่า สี่ชิ้นเลย”
“กูถึงบอกไง ว่าพวกเธอน่าสม...น่าสงสาร คงไม่ได้รู้ตัว ว่าตัวเองก็เป็นสินค้าอยู่เหมือนกัน”
“กูว่า ถึงรู้ก็คงแค่สะอึกนิดๆว่ะ แล้วก็คงมีสักคนในสี่คนนั้น ซึ่งกูคาดว่าคงจะเป็นกาละแมร์ ที่พูดออกมาว่า “ถึงพวกเราจะเป็นสินค้าก็เป็นสินค้าที่ดีนะค้าาาท่านผู้ชม” แล้วคนอื่นๆก็คงรับลูกกันหมด เพราะท่าทางก็ค่อนข้างเชื่อกันเป็นหนักหนา ว่ารายการของตัวเอง ไม่ใช่สิ รายการของช่องที่มีตัวเองเป็นพิธีกรนั้นช่างมีประโยชน์เหลือเกิน”
“มึงว่า...ถ้าพวกเธอรู้ตัวว่าตัวเองกำลังเป็นสินค้าแล้วจะลาออกจากงานมั้ยวะ?”
“กูว่าไม่น่านะ หรือถึงคิดจะออกก็คงออกไม่ได้หรอก เพราะคนดูคงไม่ยอม ทางช่องก็คงไม่ยอม เพราะพวกเธอเป็นสินค้าที่คนดูและสปอนเซอร์เต็มใจซื้อ และทางช่องก็ย่อมยินดีขาย”
“น่าสงสารเนอะ”
“อืม...โคตรพ่อโคตรแม่น่าสงสารเลยว่ะ”
“ถุย...”
“อืม...ถุย”
“ไอ้รายการตอนแปดโมงครึ่งช่องสามนะเหรอ?”
“อืม”
“ทำไมมึงดูเครียดจังวะ?”
“กูสมเพช...เอ่อ...มนุษย์คงพอใจจะได้รับคำว่าสงสารมากกว่าสินะ กูสงสารพิธีกรสี่คนนั้นว่ะ”
“ทำไมวะ?”
“ที่วันนั้น จริงๆก็นานแล้วนะ ที่คุณมีสุขแกเอาบทความของคนอื่นมาอ่านน่ะ เรื่องที่ว่าเอาผู้หญิงไปทำสินค้าอย่างเรื่องเด็กเชียร์เบียร์อะไรแบบนั้นน่ะ”
“อืมๆ กูจำได้ ทำไมวะ กูว่าดีออก ส่งเสริมผู้หญิงบางส่วน กระตุ้นให้รู้สึกตัว ให้ตระหนักถึงศักดิ์ศรีคุณค่าของตัวเอง ไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือให้คนอื่นเอาไปทำเป็นสินค้า คุณมีสุขเธอก็พูดไปแล้วนี่”
“เป็นสินค้ามันไม่ดีขนาดนั้นเลยเหรอวะ?”
“ถ้าพรุ่งนี้กูขายมึงให้คนอื่น มึงจะชอบมั้ยล่ะ?”
“กูอาจจะชอบว่ะ เพราะนั่นหมายถึงโอกาสที่กูจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น”
“ไอ้...เฮ่อ...กูจะด่าไอ้สัตว์ก็ไม่ได้ เพราะมึงเป็นสัตว์อยู่แล้ว”
“กูก็สัตว์ มึงก็สัตว์ แต่กูเป็นสัตว์ที่กำลังเป็นสัด”
“อย่ามาทำสายตาลามกกับแข้งกู มาคุยให้รู้เรื่องก่อน คือไม่ใช่ว่าเป็นสินค้าแล้วมันไม่ดีเว่ย แต่การที่เอาคนมาทำเป็นสินค้ามันไม่ดี มันไม่ใช่เรื่องที่น่าสนับสนุน ควรกำจัดด้วยซ้ำ”
“...................”
“มึงถอนใจทำไมวะ?”
“กูสม...เอ่อ...สงสารสี่คนนั้นว่ะ”
“สงสารอะไรอีกวะ?”
“พวกเธอคงไม่รู้ตัว ว่าตัวเองก็ตกอยู่ในสถานะสินค้าเหมือนกัน”
“ยังไงวะ?”
“กูว่ากาละแมร์แม่งน่าสม...น่าสงสารที่สุดเลยว่ะ แม่งถูกบรรจุไว้เป็นหนึ่งในสี่เพื่อดึงคนดู เพราะกลายเป็นสินค้าไปตั้งแต่ไอ้หนังสือที่ประณามว่ากูแม่งเลว ถึงจะเลวน้อยกว่าพวกมึงก็เถอะ พอเป็นสินค้าก็เลยขายได้ ก็เลยถูกเอามาเป็นจุดขาย สามคนที่เหลือก็พลอยฟ้าพลอยฝน กอปรกับคุณลักษณะส่วนตัว และคุณลักษณะส่วนรายการ ตอนนี้ไอ้รายการนั่นก็เลยดังไปด้วย พอรายการดัง คนก็ดัง สี่คนนั้นก็พัฒนาตัวเองไปเป็นสินค้าในรูปของดาราจอเงิน สามในสี่ถูกเอาไปขายน้ำผลไม้ เออ แต่น้ำผลไม้นั่นอร่อยดีนะ จากนั้นก็มีเอาคุณมีสุขเธอไปโฆษณาอาหารเสริมอะไรทำนองนั้น แล้วสุดท้ายที่กูเห็นนะ สี่คนนั้นมันเป็นการ์ตูนไปแล้วว่ะ”
“อืม...สินค้านี่หว่า สี่ชิ้นเลย”
“กูถึงบอกไง ว่าพวกเธอน่าสม...น่าสงสาร คงไม่ได้รู้ตัว ว่าตัวเองก็เป็นสินค้าอยู่เหมือนกัน”
“กูว่า ถึงรู้ก็คงแค่สะอึกนิดๆว่ะ แล้วก็คงมีสักคนในสี่คนนั้น ซึ่งกูคาดว่าคงจะเป็นกาละแมร์ ที่พูดออกมาว่า “ถึงพวกเราจะเป็นสินค้าก็เป็นสินค้าที่ดีนะค้าาาท่านผู้ชม” แล้วคนอื่นๆก็คงรับลูกกันหมด เพราะท่าทางก็ค่อนข้างเชื่อกันเป็นหนักหนา ว่ารายการของตัวเอง ไม่ใช่สิ รายการของช่องที่มีตัวเองเป็นพิธีกรนั้นช่างมีประโยชน์เหลือเกิน”
“มึงว่า...ถ้าพวกเธอรู้ตัวว่าตัวเองกำลังเป็นสินค้าแล้วจะลาออกจากงานมั้ยวะ?”
“กูว่าไม่น่านะ หรือถึงคิดจะออกก็คงออกไม่ได้หรอก เพราะคนดูคงไม่ยอม ทางช่องก็คงไม่ยอม เพราะพวกเธอเป็นสินค้าที่คนดูและสปอนเซอร์เต็มใจซื้อ และทางช่องก็ย่อมยินดีขาย”
“น่าสงสารเนอะ”
“อืม...โคตรพ่อโคตรแม่น่าสงสารเลยว่ะ”
“ถุย...”
“อืม...ถุย”
Comments:
<< Home
The article is very interesting and very understood to be read, may be useful for the people
Pengobatan Atasi Luka Bakar
Cara Ampuh Mengobati Radang Usus
Pengobatan Atasi Radang Tenggorokan
Obat Hilangkan Cairan Di Paru-Paru
Pengobatan Hilangkan Batu Kandung Kemih
Obat Untuk Mengatasi Penyakit Disentri
Post a Comment
Pengobatan Atasi Luka Bakar
Cara Ampuh Mengobati Radang Usus
Pengobatan Atasi Radang Tenggorokan
Obat Hilangkan Cairan Di Paru-Paru
Pengobatan Hilangkan Batu Kandung Kemih
Obat Untuk Mengatasi Penyakit Disentri
<< Home