Friday, December 23, 2005

 

ประชานิยม…แมทริกซ์ในโลกแห่งความเป็นจริง



เคยดูภาพยนตร์ไตรภาคเรื่องเดอะแมทริกซ์กันมั้ยครับ?

หากจะกล่าวกันโดยสรุป เนื้อหาของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวอยู่ที่ความพยายามของชายที่ชื่อ “มอร์เฟียซ (Morpheus แสดงโดย Lauren Fishburn)” ในการที่จะปลดปล่อยมนุษย์จากการควบคุมของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า “แมทริกซ์”

แมทริกซ์มาจากไหน?

หากจะถามถึงที่มาหรือจุดกำเนิดของโปรแกรม “แมทริกซ์” ในเรื่องนั้น คงต้องอ้างอิงจากเรื่องราวที่ปรากฏอยู่ในตอน “The Second Renaissance I และ II” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ชุด “The Animatrix” (แนะนำให้หามาดูสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าใจเรื่องราวของ “เดอะแมทริกซ์” มากขึ้น)
ผมจะไม่ขอทำตัวเป็น Spoiler ด้วยการเล่าเนื้อหาของตอนดังกล่าว แต่จะขอสรุปว่า โปรแกรมแมทริกซ์นั้นเกิดขึ้นหลังจากสงครามระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ในยุคเรอเนสซองที่สองได้ยุติลงบนความพ่ายแพ้อย่างราบคาบของฝ่ายก่อสงคราม

ซึ่งก็คือมนุษย์...

หุ่นยนต์ได้ค้นพบจากมนุษย์ที่เหลือรอดจากสงครามว่า ในร่างกายของมนุษย์นั้นมีทั้งพลังงานความร้อนและประจุไฟฟ้าที่สามารถสร้างขึ้นได้ในตลอดเวลาที่กิจกรรมชีวิตยังคงดำเนินอยู่

หุ่นยนต์ต้องการใช้พลังงานนั้น...เพื่อขับเคลื่อนตัวเองและเมือง
เพื่อมาทดแทนแสงอาทิตย์ที่ถูกบดบังจากควันดำที่มนุษย์ใช้เครื่องบินปล่อยปกคลุมน่านฟ้าเมื่อยามสงครามโดยหวังที่จะตัดขาดหุ่นยนต์จากแหล่งพลังงาน

โปรแกรมแมทริกซ์จึงถือกำเนิดขึ้น…

แมทริกซ์ในความเข้าใจของผมที่ได้จากท้องเรื่องจึงเป็นโปรแกรมสร้างความฝันขนาดยักษ์ เป็นโปรแกรมที่ทำให้มนุษย์ที่หลับอยู่นั้นเกิดความฝัน แต่ไม่ใช่ความฝันที่เพียงประเดี๋ยวด๋าวเช้าก็ตื่น แต่เป็นฝันยืนยาวที่ไม่มีวันได้พบกับยามเช้าอีกตราบเท่าที่ชีวิตยังดำรง

หุ่นยนต์เชื่อมโยงมนุษย์ที่ถูกทำให้หลับเข้ากับ “โลกแมทริกซ์” ด้วย “ปลั๊ก” ที่มีรูเสียบที่ท้ายทอยและอีกหลายที่ในร่างกาย ใช้แมทริกซ์สร้างความฝันขึ้นมาหลอกลวงว่ามนุษย์ยังคงมีชีวิตอยู่ หลอกหลวงว่ามนุษย์ยังคงดำเนินชีวิตประจำวันไปดังปรกติ แต่เป็นชีวิตปรกติในช่วงรอยต่อของศตวรรษที่ยี่สิบกับยี่สิบเอ็ด ไม่ใช่ในยุคเรอเนสซองที่สอง

บางทีอาจเป็นเพราะหุ่นยนต์ยังฝังใจกับพฤติกรรมของมนุษย์ในยุคดังกล่าว จึงไม่คิดจะสร้างโลกฝันเป็นยุคเรอเนสซองที่สอง เพราะนั่นอาจหมายถึงการเพาะภัยไว้ใกล้ตัว ความเจริญทางเทคโนโลยีแม้ในฝันก็อาจทำให้มนุษย์รับรู้ถึงการคงอยู่ที่แท้จริงของตัวเองและลุกขึ้นมาก่อสงครามกับความจริงได้ในวันหนึ่ง

มนุษย์ยังคงดำเนินชีวิตประจำวันไปตามปรกติในโลกแห่งความฝันที่แมทริกซ์สร้างขึ้น ทั้งที่ในความเป็นจริงเมืองทั้งหมดได้ถูกทำลายไปแล้ว และมนุษย์ก็กำลังอยู่ในสภาพหลับใหลในแคปซูลสีดำสนิท(ฝาแดง) ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายมนุษย์ผลิตพลังงานที่จำเป็นต่อการดำรงอยู่ของหุ่นยนต์ขึ้นมา

พอจะเห็นความคล้ายคลึงระหว่าง “ประชานิยม” กับ “แมทริกซ์” หรือยังครับ?

ดอกเห็ดนโยบายประชานิยมที่ผุดหัวเป็นรูปร่างขึ้นมามากมายหลายหลากเมื่อสี่ถึงห้าปีก่อนได้ทำให้ประชาชนมากมายตกอยู่ในความฝัน ใช้ชีวิตไปตามฝันอันเกิดแต่นโยบายประชานิยมนั้น และก่อเกิดพลังงานขับเคลื่อนให้ “แอเรีย01” ของชายผู้หนึ่งและครอบครัวพวกพ้องได้ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างก้าวกระโดด

ในขณะที่ชีวิต...ที่เป็นชีวิตจริงต้องประสบกับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส

หากเคยชมภาพยนตร์เรื่องเดอะแมทริกซ์ ผมเชื่อว่าตอนนี้หลายคนคงตั้งคำถามในใจว่า แล้ว “ผู้ปลดปล่อย” หรือ “เดอะวัน” อย่างที่มีอยู่ในเรื่องนั้นเป็นใคร และอยู่ที่ไหนในโลกแห่งความเป็นจริงตอนนี้

ผมก็ไม่รู้หรอกครับ...

แต่บอกได้อย่าง...ไม่ใช่คนที่เปิดเวทีโจมตีรัฐบาลทุกวันศุกร์แน่ๆ

“เดอะวัน” ในโลกแมทริกซ์จะใส่เสื้อคลุมยาวสีดำสนิท และอยู่ในเสื้อยืดเน่าๆสีเทามอซอยามอยู่ใน “ไซออน” ซึ่งเป็นโลกแห่งความเป็นจริง

จำไม่ได้ว่ามีตอนไหนใส่เสื้อเหลือง...
จำไม่ได้...เพราะว่าไม่มี

ผมไม่ได้มีเจตนาจะโจมตีใคร เพียงแต่อยากบอกว่า หากจะมีใครที่สามารถเป็น “เดอะวัน” ที่มาปลดปล่อยสังคมเราจาก “แมทริกซ์” ที่เรียกว่า “ประชานิยม” ได้ “เดอะวัน” คนนั้น ก็จะต้องเป็น “เดอะวัน” ที่เป็น “เดอะวัน” จริงๆอันก่อเกิดจากการรวมพลังนับหกเจ็ดสิบล้านเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้น

ได้เวลาตื่นจากฝันกันหรือยังครับ?

แต่ก็ยังมีอีกวิธีนะครับ...

เราก็แค่...ตายๆกันเสียให้หมด

จะได้ไม่ต้องเอาพลังชีวิตอันทรงคุณค่าของตัวเองไปเป็นแรงขับเคลื่อนให้ผลประโยชน์ของใคร...

อาจจะมีวิธีอื่นๆอีก ลองค้นหา แล้วเลือกเอาด้วยตัวคุณเองครับ

Comments:
ประชานิยม เป็นของหวาน รับประทานง่าย ในเมื่อไม่เคยกินมาก่อน ใครก็อยากลอง จึงไม่แปลกที่จะขายได้และขายดีซะด้วย ถ้าเราได้คนดีมาทำขนม เราก็จะได้กินขนมที่อร่อย อิ่มท้อง แต่เผอิญกาลกลับเป็นตรงข้าม แต่ขนมหวานนั้น ก้มีสิ่งแปลกปลอมผสมอยู่มากมายเหลือเกิน ประเภทสูตรพิศดาร พลิกตำราขนมที่ทำกันมา กินแล้วอาหารเป็นพิษ แต่อย่าเพิ่งตายกันไปหมดเลย เมื่อรู้แล้วว่าขนมมัน...อย่างนี้แล้ว ก็อย่าไปกินอีกเลย ไม่รู้จะทำอะไรได้ ได้แต่หวังว่าจะเรียกค่าเสียหายกลับคืนมากได้บ้าง จะเป็นจากเดอะวัน หรือพลังประชาชนก็ได้
 
อื้อหือ.....

blog นี้มันส์ดีพะย่ะค่ะ

เป็นข้อสังเกตุที่ท่าสนใจดีนะ หากมองผิวเผินรัฐแบบประชานิยมที่มันเป็นอยู่มันอาจจะสร้างสรรค์นวัตกรรมทางนโยบายที่มันแลแล้ว สวยหรูดูดี กิ๊บเก๋ เท่ไฉไล

แต่แท้จริงแล้วมันอาจจะเป็นมายาหรือเรากำลังอยู่ในโลกเมทริกซ์ดังที่คุณว่ามาก็ได้...ใครจะรู้

ผมว่าไม่ต้องรอ the one หรอกครับ ที่สำคัญคือเราควรที่จะตระหนักรู้อยู่ทุกขณะจิตว่าตอนนี้กำลังโดนดูดพลังชีวิตอย่างสบายใจเฉิบอยู่ ผิวเผินเหมือนไม่มีอะไร แต่ภายในมันกลัดหนองเน่าใน แบคทีเรียแบ่งตัวกันสนุกสานเบิกบานกันถ้วนหน้า

แต่ทว่าเราไม่รู้.....

หรือผมเองก็อยู่ในโลกเมทริกซ์เหมือนกันวะเนี่ย??!!
 
ดู matrix ไม่ค่อยรู้เรื่อง ดูฉากแอคชั่นอย่างเดียวเลยอ่ะ
 
อืม...ยินดีต้อนรับผู้มาเยือนใหม่ มิสเตอร์เกลกุ๊ก นะครับ

และ...ปิ๊ก นายคิดว่านายพร้อมจะรับรู้ความจริงเกี่ยวกับแมทริกซ์รึยัง?
 
สวัสดีครับ(อย่างมีสติ) ผมแวะมาทักทายคุณ
ปราชญ์ วิปลาส

บลอกคุณ มีประเด็นที่เพลิดเพลินอย่างโหดร้ายฮะ ชอบครับ

ประเด็น "แมทริกซ์" สำหรับผมไม่เพียงแต่ระบอบใดระบอบหนึ่งในโลกทางการเมือง

แต่เป็นระบอบชีวิตที่ยึดครอง ครอบครอง หรือ ล้อมรอบเราอยู่โดยไม่รูตัว

"ประชานิยม" ยังไม่หนักเท่ากับความเลิศวิไลของระบอบ "ทุน"

"ทุน" ยังไม่เพริดแพร้วมอมเมาเท่ากับ "กิเลส ตัณหา ราคะร่าน" ซึ่งเป็นเรื่องของ "จิต"

ไม่ว่ายาเม็ดสีฟ้าหรือเม็ดสีแดงหากเราเลือกกินก็ยังไม่เพียงพอ

ชีวิตที่ว่าง ปราศจาก "สีฟ้า" ไม่มี "สีแดง"

ไม่มีการต่อสู่ ไม่มีความสัมพันธ์เชิงอำนาจ ต่อกัน ต่างรวมหลอมเป็นหนึ่งเดียว

"the one" มิได้อยู่ไกล มิจำเป็นต้องควานหาทั่วใต้หล้าหรือตลอดห้วงมหรรณพจบสามโลก

"the one" อยู่ในทุกก้าวย่าง ทุกขณะลมเย็นลูบไล้ หรือแม่นำไหลระริน

เย็นวุ้ย ร้อนวุ้ย ไม่เย็น ไม่ร้อน วี้ดด วิ้ว!

สวัสดีครับ(อย่างมีสติ) แล้ววันหลังจะกลับมาใหม่
 
คุณแทน นิ่มนวลกับความอ่อนหัดเยี่ยงนี้
พูดอะไรเป็นภาษาคนไม่มีใครเข้าใจหรอก
คุณปราชญ์ ครับ ปลุกชาวบ้านให้ตื่น
ปลุกตัวเองให้ตื่นก่อนดีกว่า
ด้วยรักและหวังดีหวังร้าย จนไม่มีหวัง
 
ประชานิยมใช้ได้ในประเทศที่ยังไม่สมควรมีประชาธิปไตย เมืองไทยมีสิ่งที่ดีที่สุดในโลกแต่กลับต้องให้โจรมาปกครองบ้านเมือง ...เวรกรรมๆ
 
Post a Comment



<< Home

This page is powered by Blogger. Isn't yours?